Thursday, November 29, 2012

ซีอาน 3

ระหว่างการเดินทาง 4 ชั่วโมงพวกเราสบายกันมากเพราะ flight ว่าง เราสามารถย้ายไปนั่งเดี่ยว ได้ทั้ง 4 คน แต่ทัวร์ลีดเดอร์เลือกนั่งกับสามี แอบกินอาหารที่เตรียมเอาไปกันเอง แต่ Foil แอบกินจริงๆเหมือนกำลังแอบครูกินขนมในห้องเรียน เราว่าจริงๆแล้วพวก flight attendant เนี่ยเค้าพอรู้ๆอยู่นะว่าคงมีคนทำอย่างนี้อยู่บ้าง เราก็แค่กินแบบอย่าให้ obvious นัก  กินไปหลับไป ตกใจเสียงประกาศของ กัปตันนึกว่าถึงแล้ว ที่ไหนได้อีกเกือบชั่วโมง ไม่รู้จะปลุกเราทำไม

14:35 hrs ถึงซีอานด้วยความราบรื่น ถึงแม้ไม่ใช่ smooth as silk ก็สามารถ soft landing ได้

ผ่านขั้นตอน immigration  รื้อเสื้อกางเกง heattech มาใส่ เพื่มเสื้อขนเป็ด ผ้าพันคอ ออกจากสนามบินซีอาน สัมผัสลมหนาว ขึ้น Shuttle Bus สู่โรงแรม Citadines Central Apart & Hotel  check in เข้าห้อง 818 สำหรับทีม A และ 817 สำหรับทีม B โรงแรมสะอาด น่าอยู่ อยู่ 3 คนได้สบาย

เข้าห้องน้ำเตรียมออกจากโรงแรม ต้นต้องหาที่ทำการไปรษณีย์เพื่อส่งของให้ Supplier แต่ดูเหมือนทางโรงแรมไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่า post office อยู่ที่ไหน นอกจากนั้นโทรศัพท์ที่เคยใช้ตอนไป Shanghai ใช้ไม่ได้ เลยต้องไปซื้อ Sim โทรศัพท์อีก เริ่มต้นหาไปเรื่อยๆแต่ที่ไหนๆก็ไม่มีขาย แล้วเลยเวลาข้าวกลางวัน+ข้าวเย็น แล้ว เจอร้านอาหารอะไรก็ต้องเข้าแล้วสงสารพยาธิในท้อง เราก็เข้าร้านไปในขณะที่ ต้นเฟอร์ไปหาซื้อ Sim เข้าร้านไปแล้วก็งงๆเพราะไม่เห็นใครเอาเมนูมาให้ แม่ต้นพูดภาษาจีนได้ก็เลยลุกไปถามแล้วเลยสั่งบะหมี่เนี้อมาให้ ตื่นเต้นใหญ่เหมือนดูในหนังจีนเลย พอหมี่เนื้อมา โหชามใหญ่เลยแต่เป็นบะหมี่เส้นอ้วนๆ แล้วต้องควานหาเนื้อ เจอแต่วิญญาณ ความจริงแล้วมีอาหารชนิดอื่นให้สั่งแต่ไม่มีใครมาถามอะไร มองจานของลูกค้าคนอื่นอาหารเค้าก็ดูน่ากินดี พอต้นเฟอร์กลับมาแม่ต้นก็เลยสั่งอย่างอื่นให้กิน คล้ายๆสุกี้แบบจืดๆ อาหารเมืองจีนมื้อแรกก็แปลกดี  สรุปแล้วร้านนี้เป็นเหมือนศูนย์อาหาร จะสั่งร้านไหนกินก็ได้ แต่สั่งร้านหนึ่งจะไปยืมช้อนอีกร้านหนึ่งเค้าไม่ให้


                                 เริ่มต้นหาตั้งแต่ยังไม่มืด ข้างบนคือรถตำรวจจอดอยู่แถว Bell Tower


อาหารมือแรกในซีอาน บะหมี่เนื้อ (วิญญาณเนื้อซ่อนอยู่ข้างล่าง)

ชามนี้สำหรับต้นกับเฟอร์คนละชาม



ข้างๆร้านอาหารมีร้าน Pastry เห็นมีทาร์ตไข่ เอแคลร์ และอีก 2-3 ชนิด คนรุมกันซื้อทำให้เราเข้าใจว่าต้องอร่อยแน่ เลยออกไปยืนเข้าแถวกับเค้าทั้งๆที่หนาวน่าดู เราจะเลือกสั่งชนิดที่เหลือน้อยๆ เพราะคนสั่งเยอะ รสชาติไม่เหมือนกับที่เคยกิน เอแคลร์แทนที่จะใส่ครีมแบบที่ขายกันบ้านเรา กลับใส่ไส้ครีมขาวๆเหมือนที่แต่งหน้าเค๊ก ก็กินไปบ่นไป ที่เหลือเก็บไว้เป็น อาหารเช้า

แล้วก็ออกมาเดินหา post office ต่อ จนเจอแถวๆ Bell Tower นั่นแหละแต่ใครจะมาอยู่รอเรา หมดเวลางานเค้าก็เผ่นกลับบ้านหมด เราก็เดินเล่นอยู่แถวนั้น ดูไฟถ่ายรูป Bell Tower และห้างสรรพสินค้า แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ชมทิวท้ศน์ยามค่ำคืนละแวก Bell Tower กันก่อน


Bell Tower
Bell Tower

Finn & Foil

ห้างสรรพสินค้า





Wednesday, November 28, 2012

ซีอาน 2

เตรียมพร้อมสำหรับการมุ่งหน้าสู่ซีอาน วันที่ 19/11/2012 โดยสายการบิน Air Asia จากสนามบินนานาชาติดอนเมืองสู่ซีอาน เที่ยวบินที่ FD2568 (economy promotion) เวลา 09:30 hrs.

เพราะเครื่องบินออกเวลา 09:30 น. เราจึงต้องไปถึงก่อนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง กำหนดการออกจากบ้านคือ ทัวร์ลีดเดอร์จะมาถึงบ้านเราตอน 05:30 น แล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลาถอยรถเพราะที่จอดรถที่บ้านเราเป็นแบบแถวตอนเรียงหนึ่ง เค้าเลยให้เราเตรียมเอารถออก ทั้งสองคัน พอเค้ามาถึงบ้านเรา เค้าจะได้เอารถเค้าจอดคันแรก ถัดมาเป็นรถเรา แล้วพวกเราจะนั่งรถ Fortuner ไปยังสนามบินดอนเมือง

เราก็เร่งให้ทุกคนทางบ้านเรา ให้แต่งตัวให้เสร็จไวๆ เตรียมพร้อมเอากระเป๋าเดินทางใส่รถ แล้วเราก็เตรียม sandwich ไว้ให้ทุกๆ คนทั้งทีม A และ ทีม B เราเร่งทุกคนจนหงุดหงิด และดู panick ไปหมดจนเกือบทะเลาะกับสมาชิกในทีม A แล้วไงปรากฏว่า 05:42 ทีม B ก็ยังมาไม่ถึง ต้องให้พ่อบ้านเราโทรตาม ในที่สุดเมื่อทีม B มาถึง จอดรถเรียบร้อย ออกจากบ้าน ก่อน 6 โมง วันนั้นรถกลับไม่ติดเลย ถึงสนามบินดอนเมืองก่อน 7 โมงเช้าเสียอีก ไปนั่งรอที่ห้อง VIP เจ้าหน้าที่ห้อง VIP นำการ check in ให้ นับกระเป๋ารวม 2 ทีมได้ 7 ใบ (3 ใบ จาก ทีม A และ 3 ใบจาก ทีม B เพราะแม่ของต้นแบกเป้มาอีก 1 ใบ แล้วเราเองก็เอากระเป๋าผ้าร่มใบเล็กไปอีกหนึ่งใบเพื่อใส่เสบียงที่เตรียมไว้ นั่นคือ sandwich น้ำดื่ม ซึ่งกะว่าจะกินหมดก่อนขึ้นเครื่อง จะได้พับกระเป๋าใบเล็กเก็บ) แต่กลับปรากฏว่าเป้ที่แม่ต้นแบกมากลับบรรจุไปด้วย ผ้าขนหนูเล็ก ขนมขบเคี้ยว รวมทั้ง ทูน่ากระป๋องพร้อมกินกับ biscuit จำนวน 5 ชุด คิดดูซิว่าจะหนักแค่ไหน แล้วไอ้ 5 ชุดเนี่ยนะ ไม่รู้ว่าตอนเดินกลับจะหมดหรือยัง

พอผ่านเข้า counter ตม ก็แวะซื้อ McDonald และน้ำดื่มเพื่อแอบกินในเครื่องเพราะเราไม่ได้สั่งอาหารจากสายการบิน

กิจกรรมที่ทำตอนรอเรียกขึ้นเครื่องคือ วาระแห่งชาติ นั่นคือรอส่ง OBAMA กลับนั่นเอง
                                           พ่อมาส่ง ระหว่างรอในห้อง VIP


                                                           ทั้งสองทีม พร้อมสำหรับการเดินทาง

                                               รอส่ง Obama




  
เสร็จภาระกิจแล้วก็ถึงเวลาบินของเราแล้ว
Final Call ขึ้นเครื่องเก็บกระเป๋าประจำทีนั่งพร้อม take off


Tuesday, November 27, 2012

ซีอาน 1

ประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ ทรหดทัวร์ (1)
กรุงเทพ - ซีอาน - ลั่วหยาง - เจิ้งโจ - ไคฟง - เจิ้งโจ - ซีอาน - กรุงเทพ (พฤศจิกายน 2555)

วันหนึ่งขณะนั่งดู ซีรี่ยเกาหลีอยู่ ลูกสาวคนที่สองซึ่งแต่งงานไปแล้วโทรมาชวนไปเที่วยซีอานช่วงวันที่ 19 - 25  พฤศจิกายน 2555 แต่เนื่องจากเรามีแพลนที่จะไปภูเก็ตตอนปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เราจึงบอกปฏิเสธไป เพราะไม่อยากลางาน นอกจากนั้นในใจไม่เคยคิดว่าจะไปเที่ยวเมืองจีนเพราะพูดภาษาจีนไม่เป็น แล้วข่าวเรื่องความไม่สะดวกสะบายเกี่ยวกับห้องน้ำห้องท่า ทำให้เราลำบากใจที่จะไปเผชิญความน่ากลัวอย่างนั้น

แต่เมื่อเจอกันอีกครั้งลูกก็บอกว่า เค้าจองตั๋ว air asia ได้ราคาถูกเพราะเพิ่งเปิด  route ไปจีน แล้วเมืองที่จะไปคือ ซีอาน ซึ่งมีสถานที่เที่ยวที่เป็นมรดกโลกอยู่ ถ้าแม่ไม่ไปหนนี้แล้วคิดว่าจะไปกับหนู แม่ก็คงจะไม่ได้ไปเพราะหนูจะไม่ไปอีก เราก็เลยตัดสินใจไป พอเราตัดสินใจไป ลูกสาวอีกสองคน คือคนโตกับคนเล็กก็เลยจะไปด้วย ส่วนพ่อบ้านไม่ยอมไป จะขอเฝ้าบ้านเอง เพราะเค้ารู้ว่าการไปเที่ยวแบบนี้เป็นการไปเที่ยวที่น่าจะลำบากน่าดูเพราะไปแบบงบน้อย สรุปแล้วการเดินทางไปซีอานหนนี้มีผู้ร่วมเดินทาง 6 คน ประกอบไปด้วย ตัวเรา Foil (ลูกสาวคนโต)  Finn (ลูกสาวคนเล็ก) Fur ลูกสาวคนที่สองที่แต่งงานแล้ว)  ต้น(ลูกเขย) และแม่ของต้น

เมื่อตกลงแน่นอนแล้วว่าจะไป Fur (ทัวร์ลีเดอร์) ก็เริ่มกำหนดกฏเกณฑ์ว่าเราจะเดินทางแบบไม่โหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง จะเป็นการเดินทางแบบ backpack เพราะฉะนั้นแต่ละคนเอาเป้ไปได้แค่ใบเดียวโดยไม่ให้มี handbag อื่นใดทั้งสิ้น เสี้อผ้าที่เอาไปได้มีแค่  เสื้อติดตัวจะเป็นเสื้อกล้ามหรือเสื้อแขนสั้น/ยาวก็ได้ 6 ตัว เสี้อทับ 1 ตัว sweater 1 ตัว และขนเป็ดอีก 1 ตัว ส่วนกางเกงทั้งทริป 1 ตัว นั่นหมายถึงตัวที่ใส่วันไปนั่นแหละ ไทด์หรือลองจอนห์ 1  ตัว ผ้าขนหนูเล็ก 1 ผืน ชุดชั้นในพอดีวัน Toiletries ถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ นอกจากนั้นห้าม

ยังมีกำชับอีกว่าค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 5,000 กว่าบาทดังนั้นห้ามไม่ให้ใช้จ่ายเงินซื้อโน่นนี่นั่นสำหรับเอาไปใช้สำหรับ trip นี้อีก เพราะเสื้อขนเป็ดก็มีแล้ว ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ ผ้าขนหนูใช้ของเก่า กางเกงยีนส์ที่มีอยู่ เป้ถ้าต้องซื้อ ก็ซื้อให้น้อยใบที่สุด แล้วเค้าก็เอาเป้มาให้ยืม 1 ใบ

ก่อนไปเค้าก็หมั่นถามตลอดเวลาว่าเราไปขนซื้ออะไรมาอีกหรือเปล่า เรื่องอะไรจะบอก แต่ที่ซื้อใหม่มาสำหรับตัวเอง ก็คือ

1)   กางเกงผ้าร่มจาก Uniqlo (เรื่องอะไรจะใส่ ยีนส์ ให้มันรัดพุงตลอด trip)
2)   เสื้อยืดแขนสั้นติดตัว จาก Uniqlo 5-6 ตัว (ไม่อยากใส่ของเก่า)
3)   สั่ง Long John (เสื้อ+กางเกง) ทาง online  1 ชุด
4)   Sweater Wool 100% สีชมพูจาก Uniqlo 1 ตัว
5)   พอ Uniqlo วางตลาด Heattech แบบติดตัว เห็นมันบางดี เกิดคิดว่า Long John อาจจะทำให้อึดอัด เลยสอย heattech มา 2 ชุด
6)   เสื้อชั้นในแบบไม่มีโครง 3 ตัว
7)   กางเกงใน sloggi 6 ตัว
8)   ไปเดิน Uniqlo อีก เห็นมีสินค้าตัวใหม่ เป็น Heattech นั่นแหละแต่เป็นแบบตัวหลวม ราคา 390 บาท ลูกสาวคนโตบอกว่าซื้อเลยแม่ มันถูกแล้วสีก็สวย เอาไปใช้เมืองจีนหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึงเดี๋ยวจะเสียดายถ้าไม่ได้ซื้อ มีเหตุผลดี ซื้อซะเลย 2 ตัว ได้ใช้จริงๆ 1 ตัว อีกตัวแขวนไว้ในตู้
8)    เป้ 1 ใบ ซื้อที่ Ikea
9)    กระเป๋าผ้าร่ม ใหญ่ 2 ใบเผื่อลูก ใบละ 139 บาท ถูกๆ ต้องซื้อ
10)  กระเป๋าผ้าร่มเล็ก สีม่วง และ สีส้ม อย่างละใบ ใบละ 39 บาท ไว้ในน้ำและเสบียง
11)  เข้าร้าน Dai So เป็นว่าเล่นซี้อ แผ่นความร้อน ซื้อแล้วซื้ออีก กลัวไม่พอ ซื้อเผื่อหล่ายๆคน
12)  ที่ครอบหูกันหนาว 60 * 3 ไม่ได้ใช้สักคน
13)  ถุงเท้าซื้อเพิ่ม แจกลูกๆ และตัวเอง
14)  กางเกงในกระดาษ
15)  Tissue เปียก
16)  ผ้าพันคอที่มี่อยู่ก็เยอะแยะ แต่กลัวไม่อุ่นพอเพราะไม่พะยี่ห้อ Heattech ไปซี้อมาอีก Uniqlo 590 บาท

ที่ list มาเนี่ยของตัวเองนะ ยังมีซื้อเผื่อลูกๆ อีก

ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง ทัวร์ลีดเดอร์ ก็ขอเข้ามาตรวจกระเป๋า ว่ามีอะไรที่ควรและไม่ควรนำติดตัวไป โดยมีการกำหนดว่า จะแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 ทีม ทีม A ประกอบไปด้วย แม่ Foil  และ Finn  ทีม B มี ทัวร์ลีดเดอร์ ต้น และแม่ต้น  ทั้งนี้ กระเป๋าที่จะนำติดตัวไป ให้จัดให้ได้ 3 คน 2 ใบ และ toiletries ให้ใช้ร่วมกัน 1 set ต่อ 1 ทีม ใครจะไปใช้ได้ ยีห้อ shampoo ที่ใช้ก็ไม่เหมือนกัน เพราะเราต้องใช้แบบ herbal ไหนจะ ครีมทาตัว ครีมกันแดด อะไรอีก จะแบ่งกันใช้ได้ก็ยาสีฟันเท่านั้น ทั้งสามคนจึงมี toiletries คนละ 1 ชุด

กระเป๋าที่จัดสำหรับ ทีม A ก็ออกมาได้ตามรูป



เอาหละทุกสิ่งพร้อม สำหรับการเดินทางสู่ซีอาน